ส่องความงาม ‘แม่หญิงพุดตาน’ ซึ่งรับบทโดย เบลล่า ราณี ที่กำลังจะเข้าพิธี ‘ถวายตัว’ แก่ ขุนหลวงท้ายสระ ต้องแต่งตัวอย่างไร และเหตุผลใจจึงต้องหน้าขาว

จากภาพยนตร์หรือละครอิงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา หลายคนคงจะคุ้นเลยกับฉากถวายตัวเป็นบาทบริจาริกากันมาบ้าง กับการแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเครื่องแต่งกายที่สวยงามกว่าหญิงสาวทั่วไป รวมถึงใบหน้าขาวกว่าปกติ และยังมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ล่าสุด ละครพรหมลิขิต ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อคืนวันที่ 12 ธ.ค. 2566 ก็มีฉากถวายตัวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งฉากสำคัญเช่นกัน วันนี้ คมชัดลึก จะพาไปดูกันว่า แม่หญิงพุดตาน ซึ่งรับบทโดย เบลล่า ราณี ที่กำลังจะเข้าพิธี ถวายตัว แก่ ขุนหลวงท้ายสระ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และเหตุผลใจจึงต้องหน้าขาวอย่างที่เห็นกัน

ด้วยความเชื่อในลัทธิเทวราชา ว่าพระมหากษัตริย์ อวตารมาจากพระนารายณ์ (บางตำราว่าพระอินทร์) เป็นเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ ดังนั้นในสมัยโบราณนั้นสตรีผู้ถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาแก่พระเจ้าแผ่นดิน ก็เปรียบได้กับนางสวรรค์ที่จะต้องมาปรนนิบัติ จึงต้องแต่งตัวให้งดงามราวกับเทพธิดาที่เราเคยเห็นในจิตรกรรมไทย โดยการทาแป้งให้ขาวด้วยฝุ่นจีนที่ชโลมน้ำมันไว้ก่อนหน้า เขียนคิ้วให้ดำด้วยเขม่าหรือเนื้อมะพร้าวเผาไฟจนหน้าขาวเหมือนหุ่น ทาปากให้แดง อบร่ำผ้าผ่อนให้หอมฟุ้ง และมีการอบร่ำที่เครื่องเพศด้วย ด้วยว่าผิวขาวนั้นเป็นความงามในอุดมคติที่ฝังรากลึกจนถึงปัจจุบัน

ส่วนชุดที่ แม่หญิงพุดตาน สวมใส่ในคืนที่จะเข้าพิธี ถวายตัว แก่ ขุนหลวงท้ายสระ เป็นชุดที่มีกลิ่นอายสมัยอยุธยากลางอยู่มาก ด้วยว่าทางกองละคร อยากจะสื่อให้เห็นถึงขนบธรรมเนียม ที่สืบทอดมาแต่ครั้งแผ่นดินกลาง มีการเกล้าผมโบราณที่เรียกว่า โซงโขดง หรือโองโขดง แปลว่า เกล้าสองพับ คือทำผมให้ยกขึ้น นับ 1พับ แล้วพับลงอีก 1 พับ ประดับเกี้ยวหางหงษ์ ทรงผมนี้พบได้มากในภาพจิตรกรรมไทยสมัยอยุธยา

นอกจากนี้ยังประดับด้วยกรองคอ ทำจากผ้ายกลายเกล็ดจากอินเดีย ปักลายด้วยดิ้นข้อ ถมดิ้นโปร่ง สีทอง และเงิน ประดับเลื่อมทองและปีกแมลงทับ ทำเป็นรูปกระจังใบเทศ และมีการพับแล่ง (โลหะเส้นแบน ชุบทอง หรือเงิน) เป็นนมสาวด้วยมือ เพื่อเดินเป็นเส้นขอบ ประดับชายขอบกรองคอ ด้วยโหะชุบทอง ทำเป็นรูปกระจังขนาดเล็ก ติดจนรอบกรองคอเพื่อเพิ่มความอ่อนหวานให้ชิ้นงาน