ออกมาเคลียร์แล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘เต ตะวัน’ หลังเจอดราม่าทำตัวสนิท ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ เกินไป ไม่เกรงใจ ‘นาย ณภัทร’ แฟนตัวจริง ร้อนจน เต ตะวัน ฟาดชาวเน็ตจนหน้าหงาย แถมถูกยกให้เป็นตัวตึงในทวิตเตอร์

ซึ่งประเด็นนี้เจ้าตัวเคลียร์ว่า ‘บางทีเหมือนคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตจนชินจนวู่วาม บางทีเขาอาจจะคิดน้อยตอนเวลาพิมพ์ บางทีอยากให้เช็กก่อนที่จะกดพิมพ์ส่งอะไรไป ว่าบางทีสิ่งที่คุณพิมพ์มันก็กระทบกับคนอื่นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง ก็ลองดึงตัวเองถอยออกมาก่อน มองสักพักก่อนดีไหม แน่ใจแล้วค่อยพิมพ์ อันนี้คือมันค่อนข้างเป็นตุเป็นตะไปนิดนึง ซึ่งมันทำให้บางทีคนอ่านเขาก็รู้สึกไม่ดีเนอะ’

เห็นคอมเมนต์แล้วตกใจไหม?

เราอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มามาสักพัก เพราะฉะนั้นเราจะมีความชิน แต่ว่าในความชินนั้น เราไม่ได้อยากให้ทุกคนทำเป็นเรื่องปกติไง เราอยากให้ทุกคนใช้โซเชียลอย่างมีสติแล้วก็รอบคอบ ผมเชื่อว่าไม่มีใครชอบหรอกในการที่จะถูกพูดถึงในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นก็ต้องใจเขาใจเราให้มากขึ้น

ความจริงคืออะไร?

ความจริงก็คือผมไปทำงาน Loewe กับใบเฟิร์น แล้วผมเป็นคนชอบถ่ายรูป ก็ถ่ายกล้องฟิล์ม แล้วก็รีบล้างฟิล์ม แล้วลงอินสตาแกรม ก่อนถ่ายยังบอกว่าใบเฟิร์นเลยว่าทำหน้าดีๆ เพราะฟิล์มมันแพงด้วยความที่เราชอบฟิล์มสีนี้มาก เราอยากจะลง มีรูปที่อยากจะลงอีกหลายรูปมาก แต่ที่เขาถ่ายให้เรา เขาถ่ายไม่ชัดไง เราเลยไม่ลงรูปตัวเอง

แต่ดีใจที่เขาสู้ ผมว่านายน่าจะเทรนเขามาเยอะ ผมเคยเจอนายที่ร้านกล้อง คือน่าจะคนเล่นกล้องด้วยกันแหละ ดูก็รู้เลยว่าใบเฟิร์นน่าจะถูกเทรนมา เพราะว่ากล้องที่ผมเอาไปมันถ่ายยาก พอเราถ่ายเขาเสร็จ เขาจะถ่ายให้เรา เราก็บอกไม่เป็นไรๆ แต่เขาดูรู้เลย บอกว่าฉันทำได้ๆ เลยรู้ว่าน่าจะถูกเทรนมา แต่เราดันลงรูปเดียวกันที่ถ่ายจากมือถือไปก่อน เลยไม่อยากลงรูปซ้ำ แต่ว่ารูปที่เขาถ่ายให้ในความพยายามของเขาได้หลายรูปเลย เดี๋ยวไว้ลงในสตอรี่ให้ดู

ได้คุยกับใบเฟิร์นไหม?

วันนั้นเขาโทร.มา คือวันนั้นเป็นงานที่ผมออกกับนิว ออฟ กัน แล้วใบเฟิร์นเขาสนิทกับออฟอยู่แล้ว เขาโทร.วิดีโอคอลมาหาผมแล้วก็คุยกัน ยังหัวเราะกันอยู่เลย เขาคงไม่ได้ตอบ เขาคงรู้สึกว่าเหมือนเขาน่าจะอยู่ในจุดที่ชินกว่าผม เขาก็เลยโทร.มาถามว่ามึงตอบอย่างนี้เลยเหรออะไรอย่างนี้ ก็ตลกดี

กลัวนายเข้าใจผิดไหม?

ไม่กลัวครับ กับนายพอดีเรารู้จักกันอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกัน แล้วก็ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันแล้วก็เข้าใจกันดีครับ จะมีแต่ชาวเน็ตที่ไม่เข้าใจครับ ไม่ต้องกังวลแทนด้วย

ตอนที่พิมพ์คำพูดดูรุนแรง?

ไม่รุนแรงเลยนะ แต่ละคนมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน เขาอาจจะพบตัวเองได้ว่าเหมาะกับทางนี้ เหมาะกับทางเว็บตูนหรือแบบเพชรพระอุมา พอเราเริ่มชินกับสิ่งนี้ ผมจะไม่ตอบตอนที่ตัวเองรู้สึกไม่ดี เพราะถ้าเรารู้สึกไม่ดี เราอาจจะใช้อารมณ์นำได้ถูกไหมครับ ถ้าวินาทีที่ข้อความที่ออกไป นั่นคือผมกำลังอารมณ์ดีนะ ผมตอบด้วยความหมั่นเขี้ยวนิดหน่อย เพราะว่าถ้าเรารู้สึกว่าถ้าเราใช้อารมณ์ปุ๊บ เคยเป็นเหมือนกัน คือมีอยู่แล้วแหละเวลามันอยากจะเพ้อ เพราะไม่ใช่ความจริง เราอยากจะพิมพ์ พอเรามีอารมณ์ เราใช้อารมณ์ปุ๊บ สุดท้ายพอเวลาผ่านไปเราจะรู้สึกไม่ชอบในสิ่งที่เราทำ

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำไปก็คือเรารู้สึกว่าเราคิดมาแล้ว ว่าอันนี้เราตอบด้วยอารมณ์ที่เราไม่ได้โกรธอะไร ก็คือตอบขำๆ เฉยๆ แต่ในความขำๆ นั้นก็คือมีเรื่องจริงที่อยากให้ตระหนักเหมือนกัน ว่าการใช้โซเชียลควรจะระวังนะ ที่ผมโพสต์ไปก็คือเรื่องจริงเหมือนกัน ที่ว่าเวลาเราหมกมุ่นกับอะไรมากๆ เราลองถอยกลับมามองห่างๆ บ้าง คือเราก็เคยเป็นนึกออกไหม เวลาเราจดจ่อกับอะไรมากๆ หรือจะทำให้บางทีทำไปด้วยไม่มีสติ แต่ถ้าเราพักเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วออกไปคุยกับครอบครัว อยู่กับเพื่อนบ้างให้เราสบาย เราอาจจะคิดอีกแบบนึงก็ได้นะ ทำให้เราใช้สติ ใช้ความคิดได้ดีขึ้น

คิดไหมว่าจะฮือฮาขนาดนี้?

คำตอบผมฮือฮาเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน ผมก็เล่นทวิตเตอร์มานานไง ก็เลยอาจจะเข้าใจ ผมเล่นตั้งแต่ประมาณ ม.3 จนเขาเปลี่ยนเป็น X เนี่ยรอเงินเข้าอยู่ไม่เข้าสักที

คนยกให้เราเป็นตัวตึง?

จริงๆ ผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็คือไม่ได้ถนัดสังคม แต่ถนัดการเขียนมากกว่า เพราะฉะนั้นเราก็เลยชอบเล่นแอปนี้ อย่างติ๊กต๊อกเราเลยจะไม่ถนัด เพราะว่ามันต้องเป็นคลิป แต่เราเป็นคนที่ชอบพิมพ์ ชอบเขียน เพราะว่าเหมือนเราก็อยู่กับญาติที่มีความเป็นนักเขียน ก็เลยเหมือนมีความชิน อย่างที่บอกว่าแอปมันก็มีข้อดีข้อเสียของมัน ข้อดีคืออาจทำให้เราตื่นรู้เรื่องบางอย่างเร็ว แต่ผมว่าความตื่นรู้ในยุคนี้มันต้องเป็นความตื่นรู้ที่มีความพอดีด้วย ถึงจะเป็นการตื่นรู้ที่มีเสน่ห์

จะฟ้องไหม?

ดูสถานะการเงินก่อนช่วงนั้น ถ้าช่วงนี้ทำบ้านแล้วเหล็กแพง ปูนแพง ก็อาจจะมีฟ้อง แต่ถ้าสมมติเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เราก็ไม่ฟ้อง ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะลงมือเอง แต่ถ้าสมมติถ้าเหลือบ่ากว่าแรง ก็จะขอยืมมือกฎหมายช่วย (หัวเราะ)

ทุกวันนี้ยังไม่เจอแรง?

ทุกวันนี้จริงๆ ก็มีบ้างแหละ แต่เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ให้ค่าอะไร ก็อยากให้รู้ว่าจริงๆ นักแสดงเราก็เป็นคนเหมือนกัน เหมือนตอนเด็กๆ ผมเคยโดนหมากัด หมาไล่ เราก็กลัวหมาไปเลย นักแสดงหลายๆ คนที่เป็นเพื่อนผมบางทีเจอคอมเมนต์พวกนี้ไปเหมือนแขยงไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นบางทีที่ผมทำก็คือการปกป้องตัวเองอย่างนึงเลย ก็มีมือเหมือนกัน

มองเรื่องนี้ขำๆ?

ผมก็เพิ่งเจอใบเฟิร์นครั้งแรกเหมือนกัน แต่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับออฟ เพราะว่าเขาเล่นซีรีส์ด้วยกัน แล้วผมเห็นเขาไปตีแบดด้วยกันบ่อย ก่อนไปงานนั้นออฟยังพิมพ์มาบอกเลยว่า ฝากเพื่อนด้วยนะ เพื่อนป้ำๆ เป๋อๆ ฝากใบเฟิร์นด้วย จริงๆ ผมเจอนายก่อนใบเฟิร์นอีก เจอนายที่ร้านกล้องครับ