“เบลล่า” เผยสุดแฮปปี้ทำร้าน Josbanoffee ได้ 2 เดือน กระแสตอบรับดีมาก เตรียมทำแพ็กเกจใหม่ เปลี่ยนโฉมตึก พยายามจัดระบบร้านให้ดีขึ้น เข้าใจการเปรียบเทียบละคร “พรหมลิขิต” ลั่นถ่ายครั้งนี้ยากขึ้นมากจริงๆ และทุกคนตั้งใจเต็มที่กันมากๆ ลั่นรีเควชเล่นหนังคู่ “ไบร์ท วชิรวิชญ์” เอง ยันโสดสนิท มีคนเข้ามาแต่ยังไม่โดนใจ ขอให้เวลากับชีวิตตัวเองก่อนดีกว่า

เป็นธุรกิจแรกในชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วทีเดียว สำหรับร้าน Josbanoffee ของนางเอกสาว “เบลล่า ราณี แคมเปน” ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่มีกระแสการพูดถึงที่ดีมาก ทำเอาขนมที่มีเสิร์ฟขายกันไม่ทันเลยทีเดียว ซึ่งทีมข่าวบันเทิง manager online ได้นัดสัมภาษณ์พูดคุยแบบ Exclusive กับสาวเบลล่า โดยเจ้าตัวก็เปิดใจในหลายๆ เรื่องให้ฟังแบบหมดเปลือก

“ร้านเปิดไม่นาน สำหรับ Josbanoffee ก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ ค่ะ ช่วงแรกๆ ก็คือทำขนมไม่ทันเลย ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ แต่ว่าตอนนี้ทำทันแล้วค่ะ มีเพียงพอค่ะ ต้องเล่าก่อนว่าความจริงตั้งใจจะขายเป็นเดลิเวอรี่เป็นหลัก และกำลังจะดูที่ทาง กำลังจะเซ็ตระบบต่างๆ ก่อน แต่พอมีพื้นที่ที่เขาเสนอเรามา ก็เลยลองเปิดเลยโดยที่เรามีความรู้ค่อนข้างน้อยในตอนแรกนะคะ เรายังไม่ได้เซ็ตเรื่องของระบบ เรื่องของคน เรื่องของครัวอะไรต่างๆ แต่ก็ได้รับอะไรเยอะมากเลยค่ะ เหมือนเราเป็นสตาร์ทเตอร์ของเรื่องนี้เลย

สนุกมากเลยค่ะ ได้ลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลย ไม่เหนื่อยค่ะ สนุกค่ะ มันต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเลยค่ะ เหมือนเราจะได้ฟีดแบ็กจากลูกค้ามาเรื่อยๆ หรือแม้กระทั่งระบบหลังบ้าน เราก็ต้องคิดแล้วว่าถ้าขายดีกว่านี้ในโปรเจกต์ถัดไปเราจะทำยังไงดี ระบบจัดการต่างๆ ตอนนี้ก็พยายามจะอุดรูรั่วทุกๆ อย่างให้ได้มากที่สุดค่ะ”

บอกจะมีการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่ในเดือนหน้านี้

“ก็ชื่นใจมาก อย่างแรกคนก็ชมว่าขนมอร่อยค่ะ ต้องขอบคุณหุ้นส่วนก็คือพี่โจค่ะ ก็เลยเป็นชื่อร้าน Josbanoffee ขนมอร่อย และเราทำเป็นโฮมเมดจริงๆ ค่ะ แต่ละกระปุกกว่าจะได้เลเยอร์ 5 ชั้นมาคือต้องทำทีละชั้น และใช้เวลาเยอะมาก ก็เป็นความรู้ใหม่เหมือนกันว่าขนมโฮมเมดมันใช้เวลาจริงๆ รวมถึงตัวคาราเมลก็เป็นสูตรของทางร้าน ก็จะเคี่ยวเอง และพอเป็นคาราเมลสดก็เลยทำให้อร่อยมากขึ้น ช่วยชูรสชาติมากยิ่งขึ้นค่ะ

เดี๋ยวเดือนพฤศจิกายนนี้ ร้านจะเปลี่ยนโฉมเลยค่ะ ที่ Josbanoffee365 วงเวียนใหญ่ จะมีการร่วมกันกับศิลปินไทย มีการแรปตึก เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้ง มีเมนูพิเศษ ยังไงก็ฝากทุกคนรอติดตามด้วยนะคะ ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนค่ะ ก็เรียกว่าเปลี่ยนทั้งตึกเลยค่ะ และแพ็กเกจทุกอันก็จะเปลี่ยนหมดเลยค่ะ สำหรับใครที่ชื่นชอบงานศิลปะก็สามารถมองในแง่สะสมก็ได้ เพราะร้านเราจะมีเหมือนเป็นฟิกเกอร์ที่มาร่วมกับร้านเราโดยเฉพาะ มีขายที่ร้านเราโดยเฉพาะค่ะ รอติดตามกันด้วยนะคะ มาถ่ายรูปกันได้หลายๆ มุมเลย”

ดีใจละคร “พรหมลิขิต” ได้ออนแอร์แล้ว

“เบลก็รอชมมากๆ เหมือนกันค่ะ ตื่นเต้นเหมือนกัน และทางช่อง 3 ก็รีรันเรื่องบุพเพสันนิวาส เพราะว่ากลัวคนจะลืมว่าเรื่องราวเป็นยังไง ก็สามารถดูได้จากบุพเพฯ ก่อนและมาต่อพรหมลิขิตเลย เพราะจะมีเรื่องราวที่ต่อกันมาด้วยค่ะ

เบลรู้สึกตื่นเต้นในแง่ที่เบลอยากเห็นผลงานที่เบลเล่นไปแล้ว เพราะการถ่ายทำเรื่องพรหมลิขิตถ่ายยากมาก เบลเล่นเป็น 2 ตัวละครที่เป็น 2 ยุคด้วยนะคะ เป็นแม่คนนึง ลูกคนนึง สำหรับเบลเป็นอะไรที่ท้าทายมาก และต้องใช้ความเชื่อเยอะมากค่ะ รวมถึงพี่โป๊ป (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) ด้วยที่ต้องเล่นหลายตัว และมันมีฉากที่เราจะต้องเล่น 5 คน แต่เรามีกันแค่ 2 คน มันก็ต้องถ่ายกันหลายๆ รอบ โอ้โห กว่าจะได้มาฉากนึงยากมาก รวมถึงซีจีสวยมากค่ะทุกคน เบลเห็นตัวเทรลเลอร์แล้วนะคะ สวยมาก อลังการณ์มาก ภาพสวย แสงสวย และมีเนื้อเรื่องที่สนุก น่าติดตาม ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และในแง่ของพ่อฤทธิ์และพุดตานค่ะ”

ไม่คาดหวัง และทำใจถ้าจะโดนเปรียบเทียบกับภาคแรก

“ถามว่าคาดหวังแค่ไหน เบลยังไงก็ได้นะ เพราะเบลทำเต็มที่ในพาร์ตของเบลแล้ว สุดๆ แล้วค่ะ แต่ก็อยากให้ทุกคนให้กำลังใจนะคะ และขอพื้นที่ให้กับพรหมลิขิตด้วยค่ะ เรื่องการเปรียบเทียบกับภาคแรกจริงๆ ก็เข้าใจได้นะคะ แต่ก็ไม่อยากจะให้เปรียบเทียบกัน เพราะว่าเนื้อเรื่อง เส้นเรื่องก็เป็นคนละเส้นเรื่อง คืออาจจะมีของบุพเพฯ ที่อาจจะต่อกันมา ด้วยพีเรียดที่เราจะได้เห็นกันอยู่แล้ว แต่เรื่องราวมันก็แตกต่างกันไป และทีมงานทำกันเต็มที่ ตัวเบลเองก็ไม่คิคว่าภาคนี้จะยากขนาดนี้ แต่มันยากมากค่ะ ทุกคนทำเต็มที่จริงๆ ค่ะ

ไม่ได้ไปมูที่ไหนเลยค่ะ นอกจากจะมีใครทักเข้ามาหรือเวลาไปทำบุญหรือพระทักมากกว่า แต่ก็มีแอบถามเรื่องพรหมลิขิตไปด้วยนิดนึง (หัวเราะ) เพราะเอาจริงๆ เราก็แอบลุ้นแหละ เพราะเบลถ่ายมานานแล้ว จำไม่ได้ว่าพอร้อยเรียงเรื่องราวแล้วมันเป็นยังไง เชื่อแหละว่ามันดี แต่พระอาจารย์คะ ดีแค่ไหนคะ ก็แอบมีถามอยู่ค่ะ และท่านก็บอกว่าดี (หัวเราะ)​ เราก็สบายใจแล้วค่ะ”

ใช้สมอง ร่างกาย วิญญาณเล่นพรหมลิขิต จากนี้ขอเบรกงานแสดง พักชาร์ตแบตให้ร่างกายบ้าง

“หลังจากพรหมลิขิตเบลพักเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะต้องเล่น 2 ตัว เบลใช้สมอง ร่างกาย วิญญาณเราเอามาแลกเลย พอจบเรื่องนี้ก็เลยขอพักแป๊บนึง เพราะจะได้มารีเฟรชตัวเองด้วย และมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้รับงานแสดงค่ะ ก็น่าจะเป็นปีหน้า มีวางแพลนเที่ยวค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ไปมาแล้ว คือทำงานเสร็จปุ๊บก็เที่ยวต่อเลย เพราะว่ามีเวลาแล้ว ก็มีแพลนอีกค่ะ จะไปเกาหลี ไปอัมสเตอร์ดัมตอนช่วงปีใหม่

แต่ปีหน้าก็คิดว่าน่าจะรับแค่เรื่องเดียว เพราะว่าเรื่องที่จะเล่นก็รู้สึกว่าจะโหดอีกแล้ว (หัวเราะ) อาจจะมีต้องไปถ่ายต่างจังหวัดด้วย ซึ่งถ้าเล่น 2 เรื่องมันค่อนข้างยาก เพราะตอนนี้การถ่ายละครทุกอย่างมันยากขึ้น เคี่ยวมากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็ทีละเรื่องให้มีคุณภาพดีกว่า”

รีเควสเล่นหนังขอคู่กับพระเอกหนุ่ม “ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี”

“ใช่ค่ะ เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ น่ารักมาก เรื่อง Congrats My Ex! ลุ้นรักป่วน ก๊วนแฟนเก่า ก็น่าจะได้ชมกันเดือนพฤศจิกายนค่ะ คือเบลรู้สึกว่าพออ่านบทแล้วนึกถึงไบร์ท แล้วรู้สึกว่าไบร์ทที่หน้านิ่งๆ หน้าตาย มีความกวนๆ นิดนึงน่าจะเหมาะกับไบร์ท ก็เลยชวนมาลองเล่นดู และน้องก็ตอบรับ ก็ดีใจค่ะ เป็นการร่วมงานที่เหมือนไม่มีใครยอมใคร (หัวเราะ) เธอเล่นมา ฉันก็เล่นกลับ สนุกมากค่ะ”

ยังโสดสนิท ไม่มีเวลาจะศึกษาดูใจใคร

“ก็ยังคงเป็นโสดต่อไปค่ะ (หัวเราะ) เอาจริงๆ ที่เบลบอกไปก่อนหน้านี้มันถูกต้องทุกอย่างเลย เบลทั้งถ่ายหนัง ถ่ายละคร ทั้งงานโฆษณาต่างๆ มันไม่มีเวลาจริงๆ และไม่ได้มีโอกาสด้วยที่จะได้ไปเจอใคร และเบลมองเองนะว่าถ้าเบลจะคุยกับใคร มันไม่เวิร์กหรอก เพราะขนาดเวลาให้ตัวเองยังไม่มีเลย แล้วเบลไปคุยมันก็ไม่ใช่ และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับใคร คือก็มีเข้ามาบ้างค่ะ แต่เราก็มองแหละว่าความเป็นไปได้ ไม่รู้สิ ยังไม่ได้รู้สึกว่าคลิกกับใครหรืออยากจะคุยกับใครเป็นพิเศษค่ะ

ถ้ามีรักใหม่ในอนาคต เบลว่าเขาต้องเป็นเพื่อนคู่คิดให้เบลได้ เป็นที่ปรึกษาให้เบลได้ เรียกว่ามาเติมเต็มในส่วนที่เราต้องการกำลังใจหรืออะไรแบบนี้ มีคนๆ นึงที่มีความคิดที่ดี เบลชอบคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นอะไรประมาณนี้ค่ะ ถามว่าเพื่อนส่งให้ไหม เพื่อนส่งจนไม่ส่งแล้ว (หัวเราะ) ตอนแรกก็มีถามบ้าง แต่เพื่อนเห็นแล้วว่าเบลเพิ่งได้พักเอง มีเวลาให้ตัวเองบ้างก็ไม่แปลกอะไร ถ้าเพื่อนแฮปปี้กับใคร เพื่อนพร้อมเมื่อไหร่ เพื่อนก็ลุยเลย

ตอนนี้ก็ยังแฮปปี้อยู่ค่ะ ทุกวันนี้ก็มีเวลาเจอเพื่อนเยอะขึ้นมากๆ มีเวลาให้ตัวเองไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ นี่ก็ไปจองทริปดำน้ำที่ทั้งเรือเบลไม่สนิทกับใครเลย แต่ก็คิดว่าลองไปเปิดใจหน่อยแล้วกัน ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ หาอะไรทำใหม่ๆ เจอคนใหม่ๆ ค่ะ เพราะเบลรู้สึกว่าก่อนหน้านี้เบลเหมือนอยู่ในถ้ำแห่งการทำงาน และเบลก็มองว่าเบลภูมิใจกับงานเบลนะ และแฮปปี้กับทุกๆ งานแหละ แต่เวลาที่เป็นของเราจริงๆ เบลไม่ค่อยมี แต่ก็แฮปปี้ที่เลือกแบบนั้นนะ ตอนนี้ก็ขอพักแป๊บนึงแล้วกัน จะได้รีเฟรชตัวเองและมีแรงทำงานต่อไปค่ะ”