ต้องบอกว่าบทสนทนากับใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ครั้งนี้ มีหลายอารมณ์ ทั้งที่จริงจัง เมื่อคุยเรื่องงานอันเป็นสิ่งที่รัก และตั้งใจจะทำให้ดี เพื่อเป้าหมาย “อยากเป็นนักแสดงที่เก่ง ทุกคนรัก และอยากร่วมงานด้วย” ทุกๆวันจึงตั้งใจทำการบ้าน อ่านบทแล้วอ่านบทอีกเพื่อตีความ เข้าเวิร์คช็อปเพื่อพัฒนาความสามารถเมื่อโอกาสอำนวย รวมถึงรักษาระเบียบวินัยในการทำงาน
เรื่องความไม่มั่นใจในตัวเองซึ่งมีสาเหตุ ที่พูดแล้วน้ำตาก็ร่วง
รวมไปถึงอีกต่างๆนานา ที่หลายเรื่องฟังแล้วอดขำไม่ได้จริงๆ
“คนชอบหาว่าดูหวาน น่าจะเรียบร้อย ใสๆ แบ๊วๆ” เธอเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงตัวเองจากสิ่งที่ได้ยิน
ซึ่ง “ไม่เลย” คือคำปฏิเสธชัด
“เป็นคนห้วนๆ มึงมาพาโวยประมาณนึง เฮฮา ตรงไปตรงมา และแคร์คนอื่นมาก”
ฟังแล้ว เราพยักหน้าเพื่อแสดงความหมายผ่านร่างกายว่า ‘รับรู้’ ต่างจาก ศุภรดา สุนทรเนตร ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ที่แม้จะออกอาการเดียวกัน แต่นั่นเพื่อยืนยันว่าที่ใบเฟิร์นพูดเป็นเรื่องจริง
“เขาจะรู้สึกแย่กับเราไหมนะ หรือจะรู้สึกแย่กับตัวเองไหม ถ้าเราทำอย่างนั้นอย่างนี้” คือสิ่งที่คิดอยู่เสมอ
ทั้งยังบอกด้วยว่า สำหรับเธอแล้วการตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมีงานแสดงรออยู่ คือเรื่องที่ดีที่สุดของชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงรับ รับและรับงานแสดงตลอด
“ทำทุกวันค่ะ” บอกด้วยเสียงใส
ก่อนจะพบเสียงแทรก “วันละหลายที่ เป็นเวลา 2 ปีแล้ว” จากศุภรดา ที่พอได้ยิน คนขยันก็ออกตัว “ดีกว่าตอนไม่มีงานน่า”
“คือไม่ได้รู้สึกว่าออกมาทำงานขนาดนั้นนะ ส่วนใหญ่ตอนมากอง สนุกมากอ่ะ ชอบที่จะไป”
ดังนั้นในบางครั้งที่เกิดเหตุสุดวิสัย ทำให้ว่าง 2-3 วัน เอาละสิ , จะใช้ชีวิตยังไงดี คิดแล้วคิดอีก ทำโน่นก็แล้ว ทำนั่นก็แล้ว ยังไม่หมดวันสักที สุดท้ายจึงตัดสินใจโทรหาผู้จัดการ ถามว่าเวลาอย่างนี้คนอื่นเขามักทำอะไร
จะบอกให้นอนพัก ใบเฟิร์นก็ไม่นอนกลางวัน ไปห้าง นั่นก็ไม่ชอบอีก-ผู้จัดการเล่า
ดูซีรี่ย์สิ เราแนะมั่ง ซึ่ง “ก็ดู” เธอบอก ก่อนถาม “แล้วยังไงต่อ”
“จนคนนี้ (ชี้ไปที่ผู้จัดการ) ทนไม่ไหว บอกออกไปยืนตากแดด ให้แดดเผาไป เลิกโทรหาฉันสักที” นี่ใบเฟิร์นแฉ
“เศร้าชิปเป๋ง เหมือนเชื้อโรคเลย”
เจออย่างนี้ คนถูกพาดพิงจึงใช้สิทธิชี้แจง บอกด้วยหน้าที่ซึ่งต้องดูแล เริ่มแต่เช้าที่ต้องขับรถไปส่งกองถ่าย แล้วยาวไปจนดึกดื่น และด้วยพื้นฐานการเป็นเพื่อนสนิทมานาน 7 ปี จึงตกลงกันว่าน่าจะสะดวกกว่าถ้านอนด้วยกัน เธอจึงสิงอยู่ที่บ้านใบเฟิร์นเป็นหลัก
“แล้วเขาตื่นเช้ามาก 8 โมงก็เอาแล้ว วางแก้วอะไรก็เสียงดัง หรือบางทีเราแค่ลุกมาเข้าห้องน้ำ ยังไม่ตื่นนะ นางก็บอกซื้อกาแฟมาให้ละ”
ซึ่งทั้งหมดน่ะ ใบเฟิร์นสารภาพว่าเป็นความตั้งใจที่จะปลุก “หนูเหงา” สาวเจ้าลากเสียง
พอมีวันว่างดังว่าผู้จัดการเลยถือโอกาสลากลับบ้าน ตั้งใจจะนอนให้ฉ่ำ แต่ก็ยังมีโทรศัพท์มากวนใจ สุดท้ายเลยไล่ให้ไปยืนตากแดดนั่นละ
“ข้อเสียของเฟิร์นคือเป็นคนแพนิคมาก ขี้กังวล ขาดความมั่นใจ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่ดีพอสำหรับอะไรทั้งนั้น” ทั้งๆที่เพิ่งผ่านเสียงหัวเราะไปหยกๆ หากทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้เสียงของใบเฟิร์นก็เครือจนฟังได้ชัด
ความคิดนี้มีที่มาจากไหน เธอเองก็ไม่รู้
“อาจจะหาสาเหตุไม่เจอ 100 % แต่มีความไม่มั่นใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว เคยได้ยินคำพูดที่ว่าคนอย่างเธอไม่สวยพอจะเป็นนางเอก ในสังคมบูลลี่ แบบถ้าเธอไม่มีของสิ่งนี้ ถ้าไม่แต่งตัวเป็น ไม่แฟชั่นนิสต้า เธอไม่เหมาะ”
คนที่พูดเป็นใคร ใบเฟิร์นไม่ขอระบุ บอกก็แค่ตอนที่ได้ยินนั้น เธอเข้าวงการและเป็นนางเอกแล้ว
“เราเป็นคนคุยง่าย เขาคงเข้ามาด้วยความหวังดี แต่ความหวังดีบางทีมันก็เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนความมั่นใจที่เรามีกับตัวเอง”
คนหวังดีอะไรจะพูดแบบนั้น เราตั้งข้อสงสัย แต่กระนั้นใบเฟิร์นยังยืนยัน “เขาอาจจะเชื่อแบบนั้นจริงๆก็ได้นะ ว่าแบบนี้มันจะดีกับเรา”
พูดแล้วน้ำตาของคนเล่าก็ไหล
ก่อนแจงความรู้สึกบอก ถึงตอนนี้จะรู้สึกมั่นใจและเชื่อในศักยภาพว่าสามารถเป็นนางเอกได้ “แต่มันเหมือนเป็นปมไปแล้ว ว่าฉันไม่ใช่คนสวย”
“แต่มันก็ดีนะ เพราะทำให้เราไปโฟกัสเรื่องอื่นแทน ในเมื่อไม่สวย ก็ไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว เล่นเต็มที่ไป”
ฟังนักแสดงของตัวเปิดใจ แล้วผู้จัดการก็เสริม “เขาเป็นคนโลกสวย ไม่มีใครไม่ดีเลย” ด้วยเหตุนี้จึง “โดนหลอกบ่อย บ่อยมาก” ซึ่งพอได้ยินอย่างนั้นใบเฟิร์นก็มองค้อน แล้วว่า “อย่าขี้ฟ้องน่ะ”
แต่แน่ละมาถึงตรงนี้ มีหรือเราจะไม่ถาม อะไรคือโดนหลอก โดนหลอกอะไร?
แล้วก็ได้ตัวอย่างแบบเห็นภาพ ว่าถ้ามีคนคุ้นเคยบอกว่าอยากได้อะไร ชอบของชิ้นไหน “ก็จะคิดว่าถ้าเขาได้ เขาต้องมีความสุขแน่ๆ” ว่าแล้วก็ซื้อ
ก่อนจะมาตระหนักภายหลังว่า สำหรับ ‘บางคน’ นั่นคือวิธีการได้ของโดยไม่ต้องลงทุน แค่อาศัยความรู้สึกดีๆของเธอเป็นสะพาน ก็เท่านั้น
เรื่องเหล่านี้ศุภรดาบอกว่า เธอและเพื่อนคนอื่นๆเคยเตือนแล้ว หากไม่ได้ผล อาจเพราะใบเฟิร์นเติบโตมาท่ามกลางคนรอบข้างที่รักและคอยดูแล “เขาเลยไม่เจออะไร ก่อนเรื่องแย่ๆจะมาถึงเขา คนอื่นก็ตัดไว้หมดแล้ว”
โลกของใบเฟิร์นจึงสวย และทุกคนจึงเป็นคนดีไปหมด
เรื่องนี้ใบเฟิร์นก็ยอมรับ
“เมื่อก่อนเคยคิดว่าฉันดูแลตัวเองจ้า ฉันโตแล้วจ้า พวกเธอมองโลกในแง่ร้าย ความคิดพวกเธอทำให้พวกเธอไม่มีความสุข ทำไมชอบคิดถึงคนอื่นในแง่ไม่ดี”
“แล้วจะชอบหาเหตุผลที่เป็นข้ออ้างให้คนอื่น เขาอาจไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่เพราะเจอสิ่งนี้มา เหมือนวิเคราะห์ตัวละครน่ะ เขาไม่ได้จะหลอกเราหรอก แต่เขาอาจจะโตมาลำบากมั๊ง ที่บ้านอาจให้เงินไม่พอ เลยมาเอาเงินเรา แต่ความเป็นจริงคือเขาอาจจะมีเงินพอ แต่เขาชอบเงินเรา”
แม้จะเป็นเรื่องควรเศร้า แต่ฟังเหตุผลที่ยกมาอ้าง พร้อมท่าทีแสนชิลล์ขณะบรรยาย บรรยากาศก็ดูผ่อนคลาย
แถมพอเราบอกไปว่า โห , ชีวิตแย่อ่ะ
เธอยังเถียง “ไม่แย่” แบบเสียงสูง
ก่อนบอก “ตอนให้รู้สึกมีความสุข อบอุ่น”
โอยยยย อดหัวเราะไม่ไหวจริงๆ
“เพื่อนเรียกอีโง่อ่ะทุกวันนี้ อีโง่ มึงโง่ อยู่อย่างนี้ทั้งวัน” แน่นอน นี่คือเสียงแทรกจากคนที่คุณคงรู้ว่าใคร
ใบเฟิร์นยังว่า ที่ผ่านมาเคยถูกเพื่อนซึ่งควบตำแหน่งผู้จัดการคนนี้ละถามว่า หากในอนาคตแต่งงานไป โดยบ้านที่อยู่ด้วยกันเธอเป็นคนซื้อ แล้วเกิดต้องหย่า จะทำยังไงกับบ้านหลังนั้น ครั้นตอบไปว่าก็ต้องแบ่งให้เขาอยู่สิ เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะไปอยู่ที่ไหน ฟังแล้วเพื่อนก็ลงไปนอนดิ้น พร้อมโวยวายอยู่กับพื้น
ช่างน่าอิจฉาชายผู้โชคดีคนนั้น
ถามไปว่าทำไมไม่เปลี่ยนตัวเอง
“มันเปลี่ยนไม่ได้” ใบเฟิร์นตอบมาทันที
“ไม่รู้จะเริ่มคิดจากตรงไหนก่อน มีคนบอกหัดมองโลกในแง่ร้ายสักทีได้ไหม” เล่าแบบเลียนเสียงหงุดหงิดๆของคนบอก
ก่อนเปลี่ยนโทนเป็นเสียงอ่อน ถ่ายทอดบรรยากาศการตอบคำถามว่า “ใจเย็นๆ ไม่ได้จะเถียง ไม่ได้จะไม่ทำ แต่ทำยังไง แล้วเขาสอนว่าไงรู้ป่ะ สมมติเห็นใครสักคน ขวาสุดเห็นอะไร มองลึกๆแล้วคิดสิว่าซ้ายสุดเป็นอะไรได้บ้าง เราก็ยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ไม่ใช่ไม่อยากคิด อยากระวังตัวเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไร”
“โง่ก็ได้ ยอมรับ”
ใบเฟิร์นบอกอีกว่าเธอเป็นคนมีความสุขกับชีวิตวันนี้ “ไม่ใช่คนที่คาดหวังอะไรไกลๆ รู้แค่พรุ่งนี้ออกกอง อยากเล่นซีนไหน ซีนไหนกังวล มีแค่นี้เองต่อวัน แล้วทำการบ้านของพรุ่งนี้ วันที่ 3 ก็ไม่รู้แล้วว่าต้องไปไหน”
อย่างนั้นถ้าหากวันนี้ไม่ได้เป็นนักแสดง จะทำอะไร?
ฟังแล้ว เธอก็ยิ้ม ก่อนตอบ “เป็นคนทำอย่างอื่นไม่ได้ดีสักอย่าง พี่เฟิร์นเคยบอกว่าถ้าหากวงการบันเทิงล่มสลาย ก็ช่วยตายไปเลยแล้วกัน ทำอะไรไม่เป็น ร้องเพลงไม่ได้ บริหารจัดการก็ไม่ได้ ทุกวันนี้ยังหลงทางกลับบ้านตัวเอง เหมือนเซลล์สมองหายไปส่วนหนึ่ง ถ้ากูเกิล แมพ ดับ พอเลี้ยวออกจากคอนโดปุ๊บ จะบังคับเลี้ยวซ้าย เราก็จะขับวนไปเรื่อยๆ”
อ้อ,อย่านึกว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะทางบ้านไม่เคยปล่อยให้ไปไหนมาไหน ด้วยอันที่จริง “ปล่อยตลอดเลยค่ะ ก็หลงตั้งแต่เด็กจนทุกวันนี้ เสมอต้นเสมอปลาย”
แล้วถ้าแค่ในรัศมี 1 กิโลเมตรใกล้บ้าน?
“หลงค่ะ ชอบนึกไม่ออก ใช่ซอยนี้หรือเปล่านะ ซอยนี้เหมือนจะใช่ แต่ซอยนั้นก็น่าจะใช่เหมือนกัน”
หันไปถามคนเป็นผู้จัดการว่าหากให้พูดถึงใบเฟิร์นสักนิด จะพูดว่ายังไง คำตอบที่ได้มาแบบทันควันคือ “โง่” จากศุภรดา และ “ว่าแล้ว” จากใบเฟิร์น
จากนั้นศุภรดาก็เข้าสู่โหมดจริงจัง โดยว่า “เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบมาก เราไม่เคยเครียด เรื่องงาน ไม่เคยห่วง ห่วงเรื่องชีวิตมากกว่า เป็นคนไม่มีอะไรไม่ดี คิดถึงคนอื่นมาก เทคแคร์คนอื่นตลอด จนต้องบอกไปว่าให้รักตัวเองก่อน ถึงจะรักคนอื่นได้ดี”
ทั้งหมดนั้นใบเฟิร์นบอก เธอฟังเข้าใจ แต่ทำไม่ได้
“ฟังแล้วมันดี แต่เริ่มต้นอ่ะ ทำยังไง”
“โดนบูลลี่มาเยอะไง เลยไม่อยากให้ใครเจ็บช้ำ จึงชอบคิดแทนความรู้สึกคนอื่น”
ส่วนเมื่อขอให้ใบเฟิร์นพูดถึงตัวเอง เธอก็ว่า “อย่าเชื่อสิ่งที่เห็น อย่าดูลักษณะหน้ากับผม เขาชอบคิดว่าเฟิร์นหน้าหวาน ให้คิดไปในทางตรงกันข้าม อย่างซ้ายสุดกับขวาสุดเป็นยังไง”
นางน่ารักเนอะ-ว่าไหม?
News
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เรียกแฟนๆ ขยี้ตากับลุคสุดฮอตของเธอตอนใส่บิกินี่เที่ยวทะเล
ถึงจะเพิ่งอินเลิฟ แต่สำหรับสาว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก็ไม่ได้มีเวลาให้แค่แฟนหนุ่มอย่าง นาย ณภัทร คนเดียว แต่มีเวลาให้เพื่อนเหมือนกัน และล่าสุด ใบเฟิร์น พร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว และเพื่อนๆ ก็ได้จัดทริปกันไปเที่ยว โดยทางด้าน ใบเฟิร์น ที่ได้โพสต์ภาพกรุ๊ปช็อตกับเพื่อนๆ ถ่ายรูปเล่นกันที่ทะเล ซึ่งทริปนี้ถึงแม้จะไม่ได้เห็น ใบเฟิร์น ใส่บิกินี่เซ็กซี่แบบดาราสาวๆ หลายๆคน ในช่วงนี้ที่ขยันออกมาสลัดเสื้อผ้าท้าความร้อน แต่แค่ใส่วันพีซสีขาวเล่นน้ำทะเล แค่นี้ก็ถึงกับต้องขยี้ตารัวๆ แล้ว เพราะว่าน่ารักเซ็กซี่มาก…
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก สวมชุดกรีดลึกที่หน้าอก ทำให้คนตาร้อน
ทำเอาอินสตาแกรมต้องไฟลุกอีกคนแล้ว สำหรับนางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่มาพร้อมกับความเซ็กซี่ขยี้หัวใจจนเบรกไว้ไม่ไหวจริงๆ ล่าสุด ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ได้สวมใส่เดรสสั้นสีแดงสด เปิดให้เห็นเนินอกแบบกรุบๆ เผยความขาวเนียนผ่องอมชมพูของผิวสวย ที่ไม่ว่าจะมององศาไหนก็แซ่บไปหมด งานนี้แฟนๆ ต่างก็เข้ามากระหน่ำไลก์กันอย่างรัวๆ ทั้งยังบอกด้วยว่า ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลุคนี้ดาเมจเกินต้านมาก ทั้งสวย ทั้งแซ่บ อะไรมาต้านก็ไม่อยู่แล้วจ้า
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก โชว์หุ่นแซ่บเมื่อสวมเดรสเกาะอกรัดรูป
นับวันยิ่งสวยจริงๆ สำหรับ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เรียกว่าไปไหนก็มีแต่คนทักช่วงนี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะมีความรักที่ดีด้วยหรือเปล่า ดูมีออร่าสมกับคนกำลังอินเลิฟ โดยล่าสุด ใบเฟิร์น ได้โพสต์ภาพสวยใส่ชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีฟ้า นอกจากโพสท่าถ่ายรูปหลายช็อตแล้ว ก็ยังมีคลิปด้วย เรียกว่าสวยดาเมจรุนแรงมาก ใบเฟิร์น สวยทะลุจอออกมาเลย แถมหุ่นสับมากจ้า ขนาดเพื่อนดาราด้วยกันยังข้ามาคอมเมนต์ เช่น ปันปัน สุทัตตา ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า ‘กินอะไรเป็นอาหารคะ’,จีน่า เดอะเฟซ คอมเมนต์ว่า ‘ส๊วย!’ รวมถึงแฟนๆ ที่เห็นก็ต้องเข่ามาชมความสวยของ…
นางฟ้าชัดๆ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ลุคนี้! สวมเสื้อกล้าม-กางเกงขาสั้น รดน้ำต้นไม้
ถึงสเตตัสหัวใจจะไม่ใช้คำว่า ‘โสด’ แต่ก็ยังคงทำให้แฟนคลับ ‘หวั่นไหว’ ได้ตลอด…ตลอด สำหรับ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ นางเอกซุปตาร์ วัย 30 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคอลเลคชั่นภาพถ่ายเซ็ตล่าสุด! ที่เจ้าตัวนำมาเสิร์ฟให้แฟนๆ ได้ส่องกันแบบจุใจผ่านอินสตาแกรม @baifernbah ขณะใช้เวลาในช่วงวันหยุดพักผ่อนรดน้ำต้นไม้ดูแลสวนสวยภายในรั้วบ้าน ทั้งนี้ก็เพราะไม่เพียงแต่โพสต์กล่าวจะเผยให้เห็นอีกโหมดความละมุนของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ในลุคเบาๆ สบายๆ สวมเพียงเสื้อกล้ามตัวจิ๋ว กับกางเกงยีนส์ขาสั้น อวดผิวขาวออร่าเต็มเฟรมเท่านั้น แต่ทว่าลีลาท่วงท่าในการรดน้ำต้นไม้ของเจ้าตัว รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ…
ส่องลุคการแต่งตัว ‘เบลล่าราณี’ นักแสดงที่ดูสง่างามและเสน่ห์
เบลล่าราณี เธอเป็นนักแสดงแล้วก็นางแบบที่หลายๆคนก็ต่างรู้จักเธอเพราะเธอนั้นมีผลงานมาอย่างมากมายในวงการ และเนื่องจากเธอเป็นนางแบบด้วยเธอยังมีสไตล์การแต่งตัวที่น่าสนใจงั้นเราไปดูสไตล์การแต่งตัวของเธอกัน แนวแรกก็จะเป็นแนวสวยแซ่บโดยที่เธอนั้นจะสวมเป็นเดรสเกาะอกยาวสีแดงซึ่งบริเวณด้านบนของเกาะอกนั้นก็จะมีเพชรใหญ่ๆตรงกลางส่วนตัวเดรสที่เป็นสีแดงนั้นก็มีลวดลายเล็กๆน้อยๆทำให้มีลูกเล่นและดูโดดเด่นมากขึ้น ดูสวยดูแซ่บทำให้คุณเบลล่านั้นดูมีเสน่ห์มาก ต่อไปก็จะเป็นแนวน่ารักๆที่เธอจะแต่งเป็นชุดเดรสสายเดี่ยวสีฟ้าซึ่งชุดนี้มีลูกเล่นตรงบริเวณด้านล่างของตัวเดรสนั้นก็จะเป็นกระโปรงหลายชั้นส่วนตัวด้านบนนั้นก็จะเป็นสายเดี่ยวที่มีลายพาดชุดนี้ทำให้คนเบลล่าดูน่ารักดูสดใสมากๆเลย ต่อไปก็จะเป็นแนวที่คุณเบลล่าแต่งเป็นชุดจีนโบราณซึ่งบอกได้เลยว่าชุดนี้ดูโดดเด่นเป็นสง่ามากชุดนี้เป็นชุดสีแดงคล้ายๆกี่เพ้าจะมีลวดลายสีเหลืองทองปักอยู่มากมายตามชุดและที่เด่นที่สุดเลยก็คือเครื่องหัวของคุณเบลล่านั่นเองบอกได้เลยว่าอลังการมากและดูสวยงาม แนวนี้ทำให้คุณเบลล่าดูหน้าดึงดูดมากๆ ต่อไปแนวที่คุณเบลล่านั้นแต่งชุดกิโมโนของญี่ปุ่นนั่นเองโดยที่ชุดกิโมโนนั้นก็จะมีหลากหลายลายอย่างมากรวมถึง ลายที่ดูงดงามอย่างลายดอกไม้ที่บริเวณด้านล่างของชุดกิโมโนนั้นดูสวยดูสง่ามาก ชุดกิโมโนของคุณเบลล่านั้นจะเป็นสีฟ้าสดใสทำให้ดูโดดเด่นตัดกับลายที่อยู่บนผ้ากิโมโน เราได้เห็นคุณเบลล่าแต่งทั้งชุดจีนโบราณแล้วก็ชุดของญี่ปุ่นไปแล้วงั้นเรามาดูคุณเบลล่าใส่ชุดไทยกันเลยแนวนี้ก็จะเป็นแนวที่เธอนั้นใส่ในการแสดงเรื่องบุพเพ ก็จะเป็นสไบยาวสีเขียวส่วนเสื้อที่สวมใส่นั้นก็จะเป็นสีเขียวเข้มแถมยังใส่โจงกระเบนที่เป็นสีเขียวมืดๆแล้วก็บริเวณตรงโจงกระเบนนั้นมีปลายที่เป็นสีเขียวอ่อนอยู่ทั่วโจงกระเบน พรุ่งนี้เป็นลุคที่คุณเบลล่าดูเหมาะมากเนื่องจากตัวชุดที่ทำให้คุณเบลล่าดูดีดูแมทช์กันมีเสน่ห์อย่างมาก สิ่งที่เราชื่นชอบในตัวคุณเบลล่านั้นก็คือเธอนั้นมีหน้าตาที่ค่อนข้างสวยสง่าแต่งตัวได้หลายแนวและมีความน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็เป็นกันเองอย่างมาก ผลงานที่เราชอบก็คือบุพเพสันนิวาสนั่นเองเราชอบที่คุณเบลล่านั้นรับบทเป็นแม่การะเกดเป็นการนำความคิดสมัยใหม่มาใช้ในยุคโบราณได้อย่างดีและเรื่องนี้ก็ยังกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของประเทศไทยด้วยซึ่งคุณเบลล่านั้นก็ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีทำให้คนดูหรือแฟนคลับอย่างเราๆเนี่ยต่างชื่นชอบละครเรื่องบุพเพสันนิวาสมากๆเลย สำหรับใครที่ชื่นชอบคุณเบลล่าราณีไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัวไลฟ์สไตล์หรือว่าชื่นชอบผลงานของเธอก็สามารถติดตามเธอได้ที่ instagram ส่วนตัวแล้วก็อย่าลืมรอติดตามผลงานใหม่ๆของคุณเบลล่าได้เรื่อยๆอีกด้วย
ส่องภาพความน่ารักของเบลล่า ราณี แคมเปนและคุณแม่ปราณี
หากพูดถึงเบลล่า ราณี แคมเปน ทุกคนคงนึกถึงว่าเบลล่าคือนักแสดงสาวช่อง 3 แสนสวยและสง่า ที่ตอนนี้กำลังถ่ายทำละครเรื่องใหม่ ‘พรหมลิขิต’ ร่วมกับพี่โป๊ป ซึ่งเป็นภาคต่อของละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ แสนโด่งดังเมื่อ ปี 2561 แต่สำหรับบทความนี้แล้ว เราขอชวนเพื่อนๆ มาดูความน่ารักและสดใสของเบลล่ากับคุณแม่ปราณี คุณแม่ของเบลล่าจากอินตราแกรม bellacampen กันค่ะ นอกจากนี้ยังมีภาพคู่แม่ลูกที่พากันไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อีกด้วยอย่างภาพนี้ เบลล่าพาคุณแม่ไปอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้เห็นความแข็งแรงของทั้งคุณแม่และคุณลูกเลยล่ะค่ะ เพราะเห็นว่ากว่าจะขึ้นไปถึงถ้ำนาคี ถ้ำนาคาต้องเดินไปเป็นกิโลเมตรเลย แถมบางพื้นที่ยังไม่ใช่พื้นดินราบเรียบอีกด้วย…
End of content
No more pages to load