ละคร ‘พรหมลิขิต’ ช่อง 3 กำลังเข้มข้น ซึ่งตอนนี้ไฮไลท์ของเรื่องที่น่าสนใจคือ ‘เมียพระราชทาน’ หลัง ‘แม่หญิงแพรจีน’ (น้ำฟ้า ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ) คลั่งรัก ‘พ่อริด’ (โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) ไม่ไหว ทุ่มกายใจไปเรียนทำกับข้าวกับ ‘คุณหญิงการะเกด’ (เบลล่า ราณี แคมเปน) แต่พ่อริดไม่สนใจ ไปหลงรัก ‘พุดตาน’ ซะงั้น

‘แม่หญิงแพรจีน’ เลยวิ่งไปฟ้องแม่ (มิ้งค์ ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต) ทำให้แม่ขอให้ ‘พระยาโกษาธิบดี’ (ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ผู้เป็นพ่อจัดการคลุมถุงชน ในขณะที่ ‘คุณหญิงจำปา’ (ชไมพร จตุรภุช) ก็ไม่เบา คิดขัดขวางความรัก ระหว่างพุดตานกับพ่อริด โดยจะไปขอ แม่หญิงแพรจีน ให้เป็นเมียพระราชทานของพ่อริด

ทำเอาหลายคนสงสัย ‘เมียพระราชทาน’ คืออะไร ซึ่งในอดีตสมัยอยุธยานั้น แบ่งคำว่าเมียไว้ 3 ประเภท ดังนี้

เมียกลางเมือง หมายถึง เมียหลวง คือหญิงที่บิดามารดา สู่ขอให้เป็นเมียชายตามประเพณี


เมียกลางนอก หมายถึง เมียน้อย (อนุภรรยา) คือหญิงที่ชายขอมาเป็นกรรยา ลดหลั่นเมียหลวงลงมา

เมียกลางทาสี หมายถึง เมียที่เป็นทาส คือหญิงที่ชายช่วยไถ่มาเลี้ยงเป็นเมียรองลงมาจากเมียน้อย (ทาสี หมายถึง ทาสผู้หญิง)


เมียพระราชทาน (เมียนาง) คือ หญิงที่กษัตริย์พระราชทานให้เป็นบำเหน็จรางวัลที่ได้ทำความดีความชอบ ซึ่งเมียพระราชทานจะมีตำแหน่งและฐานะสูงกว่าเมียหลวง แต่ถือศักดินาเท่าเมียหลวง ผัวจะเอาไปขายเป็นทาสแก่ผู้ใดไม่ได้ (ส่วนเมียหลวง เมียน้อย เมียทาส ผัวมีสิทธิขายเป็นทาสได้) นอกจากนี้พระราชทานยังได้รับการดูแลดี ไม่ถูกทุบตีอย่างเมียอื่น หากชายใดมีเมียอยู่แล้ว หากได้เมียพระราชทานมา เมียพระราชทานก็จะอยู่เหนือเมียทั้งปวง