ลาจอไปแล้วสำหรับละครฟอร์มยักษ์อย่าง พรหมลิขิต ภาคต่อของ บุพเพสันนิวาส กับบทสรุปของทุกเรื่องราว ที่งานนี้กระแสโซเชียลบอกเลยว่ามีทั้งดี และ ไม่ดี ในขณะที่เพจดัง อรรถรส ได้รีวิว ข้อดี-ข้อเสีย ของ พรหมลิขิต ออกมาได้แทนใจคนดูหลายๆคนดังนี้

รีวิว ‘พรหมลิขิต’ เปิดมาตอนแรก คือสนุกมาก ไม่เหมือนภาค 2 แต่เหมือนดูเหตุการณ์ต่อจาก บุพเพสันนิวาส แต่พอหลังจากตอนหนึ่ง คือเนื่อย ตอนจบ รวบรัดฝุดๆ

ข้อเสียของเรื่องนี้
◾ ตัวละครพูดศัพท์ในปัจจุบัน จนมันดูไม่น่าสนใจ ตอนบุพเพฯ มันจะมีแต่นางเอกที่พูด มันเลยไม่เยอะ !!

◾ ฉากทำอาหาร ทำออกมาจนดูล้น ดูยัดเยียด ดูไม่ใช่แบบ Soft power ที่เราอยากไปหากิน อย่างมะม่วงน้ำปลาหวาน หมู่โสร่ง อะไรแบบนี้

◾ บทพูด กำกวนไป หยอกย้อนไปมา หาใจความไม่ได้

◾ การอิงประวัติศาสตร์สมัยก่อนยังน้อย ตอนนั้นแค่การะเกดไป ตลาดเห็น’จับปิ้ง’ ยังเป็นกระแส ทำให้คนค้นข้อมูล

◾ นิสัยพระเอก คือ ไม่พระเอก ไม่คิดจะสู้อะไรเพื่อคนรัก เอาแต่ให้ Destiny เป็นตัวกำหนด ทำให้ฉากขุนหลวงเด่นกว่าพระเอก

◾ ความสัมพันธ์นางเอกกับพระเอก มีความอิหยังว่ะตลอด ตอนแรกรักกัน ผ่านไปอีกตอน เอาด่ากัน งอนกัน งง

◾ ฉากขยี้ถึงอดีตชาติ ควรขยี้ให้ได้มากกว่านี้ก็ไม่ แต่ไปเน้นฉากแม่กลิ่นอยู่ตลอด

◾ บทเลิฟซีน บทล้ม จ้องหน้ากัน เพลงมา จนดูเยอะ จนมันดูแล้วไม่ฟิน

ข้อดี

◾ ตัวละครแต่ละตัว คือ เล่นดีมาก เข้าถึงบทบาทกันทุกคน แม้แต่เบลล่า โป๊ป ที่ต้องแสดงหลายบท ก็สามารถแยกสีหน้าออก

◾ แก็งค์บอยแบนด์ขุนหลวง คือ หล่อ ละมุน

◾ การเล่นตลกมีความโบ๊ะบ๊ะ เข้าจังหวะกันได้ดี ทำให้ดูแล้วเพลิดเพลิน คลายเครียด

◾ ตัวละครหญิง ที่ยกให้เลยว่าสวย ทุกฉาก คือ เบลล่า กับแม่กลิ่น สวย จะร้องไห้ โวยวาย ตกน้ำ คือ สวยหมด

◾ ชุดแต่งกายของตัวละคร คือ สวยมาก มองแล้วไม่มีเบื่อ

◾ เพลงเพราะ ฟังแล้วคิดถึงละคร ยิ่งเพลงที่วีร้องคือ ฟังเพลินมาก

◾ ใดชอบฉากความสัมพันธ์ของคู่พ่อเดช กับการะเกด มากกว่า เข้าคู่กันดีมาก