คิวงานฮ็อตสุดนาทีนี้ก็คงต้องยกให้กับแม่หญิงการะเกด หรือ เบลล่า – ราณี แคมเปน ที่กำลังเป็นที่รักหนักมากของคอนวนิยายและคอละครเรื่องบุพเพสันนิวาส

สนุกและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับละครบุพเพสันนิวาส บทประพันธ์จากปลายปากกาของรอมแพง ที่ตอนนี้นอกจากกระแสนักแสดงจะฮ็อต เรตติ้งทะยานขึ้นสู่เลขสองหลักเรียบร้อย (ออนแอร์ไปเพียงไม่กี่ตอนเท่านั้น) ด้านนวนิยายยังได้รับความสนใจมากจนขาดตลาดและมีการตีพิมพ์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

Exclusive Talk ได้คิวทองนางเอก เบลล่า – ราณี มานั่งพูดคุยถึงการถ่ายทำละครบุพเพสันนิวาส ที่ร้าน Prestige Flowers Coffee & Tea Room สุขุมวิท 39 แม้แดดในช่วงบ่ายจะร้อนชวนตาหยี แต่รอยยิ้มของนางเอกสาวที่ส่งมาตั้งแต่เริ่มคำทักทายแรก ตลอดจนระหว่างนั่งสนทนาก็ทำเอาคนรอบข้างใจเย็นลงเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละฉากในเรื่องเชื่อว่ามีหลายฉากที่แฟนๆ ชื่นชอบ อย่างฉากพระนางแอบมองกันตรงหน้าต่างบ่อยๆ ก็มีดีเทลพิเศษที่ฟังแล้วคำว่าเคมีของเบลล่า – โป๊ป มีอยู่จริงแบบไม่ดูขัดเขินเลย

กระแสเบลล่าเปรี้ยงมากเลยตอนนี้ รู้สึกอย่างไรบ้างตั้งแต่รอละครออนแอร์จนกระทั่งละครออนแอร์แล้ว

เบลล่า : ค่ะ ตอนที่เราถ่าย ตอนที่อ่านบท หรือตอนที่อ่านนิยายเลย เรารู้สึกว่าเรื่องนี้มันสนุกมาก-ก-ก-ก ด้วยความที่ละครบทดี เขาว่ามีชัยไปกว่าครึ่งใช่ไหมคะ (ยิ้ม) พอเราอ่านบทก็โอ้โห ทั้งสนุก ทั้งท้าทายเลย เพราะเรื่องนี้เบลต้องเล่นเป็น 2 ตัวละคร ทั้งการะเกดและเกศสุรางค์ด้วย แล้วพอมาเจอโปรดักชั่นที่ทุกคนละเอียดมากกับการทำงาน พอทุกอย่างมารวมกัน เราก็รู้สึกว่าละครน่าจะสนุกนะ (ยิ้ม) ก็แอบคิด แต่ว่าไม่กล้าคิดไปก่อนว่าคนดูจะชอบหรือไม่ชอบ ก็คิดว่าคนดูน่าจะสนุกแล้วยิ้มตาม ทีนี้พอกระแสออกมา ต้องบอกก่อนเลยว่าเกินคาดมากๆ ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ คือในโซเชียลด้วย เรื่องของเรตติ้งด้วย เป็นอะไรที่เซอร์ไพร้ส์มาก ในฐานะคนทำงานทุกคนต่างดีใจมาก เหนื่อยกันมาก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ

เรื่องนี้เล่นเป็น 2 คาแร็คเตอร์ที่แตกต่างกัน ปรับตัวยากไหม เพราะต้องเล่นร้ายในมุมการะเกด และเล่นเป็นคนจิตใจดี น่ารักๆ ในมุมเกศสุรางค์

เบลล่า : ตอนแรกก็ต้องดูคาแร็คเตอร์ ศึกษาคาแร็คเตอร์ก่อนให้ชัดเลย เพราะการจะเล่นเป็นสองตัวละครว่ายากแล้ว ต้องทำให้คนดูเชื่อด้วยว่า เออ คนนี้การะเกด คนนี้เกศสุรางค์ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชุดเดียวกัน แต่ข้างในไม่เหมือนกันนะ ฉันคือเกศสุรางค์ อะไรประมาณนี้ ก็ต้องพยายามหาตัวคาแร็คเตอร์ให้ชัด ซึ่งหาแบ็กกราวนด์ หาอะไรต่างๆ ทำการเวิร์คชอปก่อน แล้วเบลก็ทำการบ้านค่อนข้างเยอะ อย่างเรื่องของบท เบลก็จะโน้ตเอาไว้ว่าบางวันต้องเล่นทั้งสองตัวละคร พอเราจับคาแร็คเตอร์ จับอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละตัวได้ชัดแล้ว การถ่ายสลับไปสลับมาก็จะได้ง่ายขึ้น แล้วก็ไม่เป็นปัญหาค่ะ

ก่อนหน้านี้แพรวดอทคอมเคยสัมภาษณ์ผู้จัดฯ จ๋า – ยศสินี เรื่องเพลิงบุญ คุณจ๋าชมว่า เบลล่าจะอ่านนิยายจบก่อนใครๆ ถ่ายฉากแต่ละครั้ง แม้จะฉากเดิมก็เล่นไม่เหมือนกัน ให้ผู้กำกับเลือก สิ่งเหล่านี้เป็นการทำงานที่ทำกับละครทุกเรื่องเลยหรือเปล่า

เบลล่า : (ยิ้ม) แล้วแต่เรื่อง แล้วแต่บทด้วยค่ะ อย่างเพลิงบุญ พี่เติม (ชนินทร ประเสริฐประศาสน์) เขาก็จะอยากให้ลองเล่นดูว่าแบบไหนใช่ที่สุด เดี๋ยวพี่เติมจะช่วยดูให้ว่าอย่างไหนคือใช่ หรือถ้ามีอะไรเพิ่มเติมที่คิดว่ามันใช่ตัวละครก็บอกพี่เติมเลย มาคุย มาแชร์กันได้อย่างนี้ กับเรื่องบุพเพสันนิวาสก็เหมือนกันค่ะ พี่ใหม่ (ภวัต พนังคศิริ) ผู้กำกับค่อนข้างเปิดกว้างในเรื่องการแสดง อย่างตอนที่เป็นเกศสุรางค์ พี่ใหม่ก็บอกเต็มที่เลย อยากจะเล่น อยากจะขายของอะไรเอาเต็มที่ เดี๋ยวพี่ใหม่จะบอกเองว่าขอเพิ่มตรงนี้ ขอลดตรงนี้ ตอนเป็นการะเกด ทั้งพี่หน่องและพี่ใหม่ก็จะบอกว่าเล่นเต็มที่ไปเลย ไม่ต้องกลัวว่ามันจะดูแรง ดูร้าย เพราะจะทำให้คนดูรู้สึกว่า เออ เป็นสองคนที่แตกต่างกันมาก

ละครออนแอร์แล้ว มีกระแสชื่นชมเบลล่าค่อนข้างมากว่าเล่นร้ายก็ดี เล่นบทนางเอกก็ได้ กลายเป็นนักแสดงที่เล่นได้ทุกบทบาท ส่วนตัวทราบกระแสนี้บ้างหรือเปล่า

เบลล่า : ก็พอได้ยินค่ะ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ (ยิ้ม) ขอบคุณที่ชอบนะคะ สำหรับตัวเบล ไม่ได้ติดว่าจะต้องเล่นเฉพาะบทไหนๆ เบลรู้สึกว่าอยากเล่นได้ทุกบทบาท เพราะว่าเบลอยากทำได้หมด เล่นได้ทุกแบบ มันคือความท้าทายเหมือนกัน อย่างตอนที่เล่นร้ายมันค่อนข้างยาก เพราะว่าไม่ใช่แค่การใช้กำลังหรือแค่กรี๊ด แต่มันคือข้างในที่เราจะต้องหา ต้องคิดอะไรอยู่ในใจตลอด ก็จะเป็นพลังอีกรูปแบบหนึ่งที่เราไม่เคยทำ ไม่เคยเล่นมาก่อน ก็เหมือนเราได้เรียนรู้ไปในตัวด้วย

คุณแม่มีโอกาสดูละครเรื่องนี้ไหม

เบลล่า : แม่ดู แม่ติด (หัวเราะ) แม่ดูตั้งแต่คลิปเบื้องหลังอะไรต่างๆ เลยค่ะ แม่ก็ให้กำลังใจว่า เก่งมากลูก แม่ดีใจที่มีคนชอบเยอะ แม่ก็บอกว่าสนุก คือละครออนแอร์ไปแล้วใช่ไหมคะ วันรุ่งขึ้นแม่ก็มาเปิดดูพวกกระแสต่างๆ ดูเบื้องหลัง ดูฉากโน้นฉากนี้ เบลก็เอ้า! แม่ดูไปแล้วไม่ใช่เหรอตอนนี้ แม่ก็บอกว่าอยากดูอีก ชอบ สนุก (หัวเราะ)

กระแสดังที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ กระแสเบลล่าร้อยมีม ที่มีคนแคปภาพหน้าเราแล้วไปใส่ข้อความต่างๆ

เบลล่า : (หัวเราะ) ค่ะ ด้วยความที่ทั้งการะเกดและเกศสุรางค์เป็นคนที่แสดงออกทางสีหน้าชัด การะเกดก็จะจิก จะอะไรทุกอย่างออกมาทางสีหน้า เกศสุรางค์ก็เช่นกัน เกศสุรางค์เป็นคนตลก เป็นคนที่มีความสุข สดใส อารมณ์ดี คือเวลาเขาจะทำอะไร เขาชอบให้คนรอบข้างมีความสุข หรือคิดอะไรก็จะเป็นคนเล่นใหญ่ เป็นคนอะเลิร์ต ก็จะมีคนเอารูปจากตอนโน้นตอนนี้มาทำ อย่างบางทีเราทำท่าล้อเลียนคนอื่น มันก็จะแสดงออกชัดมาก

แล้วมีแฟนๆ แท็กรูปเบลล่าร้อยมีมมาหาตามอินสตาแกรม ตามโซเชียลค่อนข้างเยอะ มีเซฟรูปเก็บไว้ใช้บ้างไหม

เบลล่า : (หัวเราะ) มีคนถามเหมือนกัน เบลไม่ได้เซฟค่ะ เพราะว่าคนอื่นส่งมาให้ก็เยอะแล้ว ดูแล้วมีความสุข เห็นคนดูชอบ เห็นเขาแชร์ เห็นเขาเอามาใส่คำพูดนู้นคำพูดนี้ รู้สึกน่ารักดี เบลชอบดูค่ะ

ถามถึงการเข้าฉากกับพระเอก โป๊ป – ธนวรรธน์ บ้าง เพราะตอนนี้กระแสแรงจนกลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ไปแล้ว การทำงานด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง

เบลล่า : ทำงานกับพี่โป๊ปสนุกมาก (เน้นเสียง) เพราะว่าพี่โป๊ปทำการบ้านดีมาก แล้วพี่โป๊ปเป็นคนที่เวลาเล่น เราสัมผัสได้จริงๆ เราเชื่อจริงๆ อย่างน้ำเสียงเขาหรือแววตาเขาจะเปลี่ยนไปตามบท คือสายตาเขาจะบอกทุกอย่างเลย อย่างเวลาเราทำท่าอะไรประหลาดไป หน้าเขาจะรีแอ็คชัดมาก เล่นด้วยแล้วรับส่งกันสนุกค่ะ บางทีมีเพิ่มบทกันเองด้วย แต่พี่โป๊ปจะเพิ่มยากหน่อย เพราะคำพูดเขาใช่ไหมคะ แต่บางทีเราก็จะใส่ให้เขา

อย่างโป๊ปตอนนี้ก็กลายเป็นหนุ่มแร็พอโยธยาไปแล้ว

เบลล่า : ใช่ๆ คือฉากนี้เป็นฉากที่ถ่ายแรกๆ ของการถ่ายทำเลย แล้วจะยังไม่ค่อยชินในเรื่องของภาษา พี่โป๊ปเครียดมาก อ่านบทมาเป็นอาทิตย์ อย่างฉากแร็พอันแรก เบลเป็นคนพูดยาวก่อนใช่ไหมคะ ก็พูดเสร็จปุ๊บ อะ พี่โป๊ป เบลผ่านแล้วนะ ตาพี่โป๊ปแล้ว (หัวเราะ) พี่โป๊ปก็เครียดมาก ด้วยภาษา และมีเรื่องอารมณ์ด้วย เขาก็อยากเล่นให้อินจริงๆ ค่ะ ซึ่งก็ทำได้ดีนะ ไม่ใช่แค่การพูดๆๆ แต่อารมณ์อะไรได้หมดเลย

ในเรื่องนี้จะมีฉากโรแมนติกให้แฟนๆ ได้ชมแล้วอินค่อนข้างมากเหมือนกัน มีฉากไหนที่เบลเล่นแล้วประทับใจเป็นพิเศษไหม

เบลล่า : อืม…มีเยอะ จะมีอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ส่วนมากเบลจะชอบที่เป็นฉากชมจันทร์ มันเป็นโมเมนต์ที่ได้อยู่กันสองคน กับฉากนั่งเรือก็จะเป็นการพูดคุยกัน บางทีก็จะรู้สึกว่าจีบฉันหรือเปล่า ทำไมหยอดฉันหวานขนาดนี้ จะเป็นการคุยกันที่ใช้ภาษาละมุนละไม เป็นความเนียนของพระเอกที่อ้าว พูดอะไรเนี่ย พูดถึงฉันอย่างนี้ ส่งสายตาอย่างนี้ เป็นการเข้าฉากพระนางที่ไม่ต้องมาโดนตัวกัน ง่ายๆ สบายๆ แต่ดูแล้วอบอุ่นอมยิ้มค่

ฉากที่แฟนๆ ฟินและเห็นบ่อยอย่างฉากแปรงฟันตรงหน้าต่าง ที่ต่างคนต่างจะมีการแอบมองกัน

เบลล่า : (หัวเราะ) ความจริงคืออยากจะบอกว่าพวกเราไม่เห็นกันเลยตอนที่ถ่าย เพราะว่าต้องถ่ายทีละฝั่ง แล้วเราก็ไม่รู้ว่าพี่โป๊ปเล่นยังไง พี่โป๊ปก็ไม่รู้ว่าเราเล่นยังไง เราใช้จินตนาการล้วนๆ ว่าพี่โป๊ปน่าจะประมาณนี้ เขาจะต้องเหล่ฉันในท่าทางที่เซอร์ไพร้ส์มาก ฉันก็ใส่ท่าใหญ่เลย พี่โป๊ปก็จินตนาการเอาว่าเกศสุรางค์น่าจะเล่นใหญ่เบอร์ไหน แต่พอเอามารวมกันแล้ว เขาก็เข้าใจคาแร็คเตอร์เรา เราก็เข้าใจคาแร็คเตอร์เขา พองานออกมาก็น่ารัก ดูแล้วก็ขำเองค่ะ (ยิ้ม)

ละครบุพเพสันนิวาสถ่ายจบไปเมื่อปีที่แล้ว ออนแอร์ปีนี้ พอได้กลับมา นักแสดงแต่ละคนคิดถึงกันมากไหม

เบลล่า : คิดถึง คือเราอยู่ด้วยกันมาประมาณปีกว่า ซึ่งก็ถือว่าเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ก็คิดถึงบรรยากาศที่ได้ถ่าย โดยเฉพาะตอนที่กลับมาดูละคร เบลก็จะคุยกันในกรุ๊ปนักแสดงกับทีมงานว่าคิดถึงตอนนั้นเนอะ จำได้ไหมว่าร้อนมากเลยเนอะ (หัวเราะ) พี่โป๊ปสิบเทคเลยฉากนี้ ก็จะมีการคุยกัน แต่พอตอนที่เราถ่ายมันจะอีกอารมณ์หนึ่ง พอเรามาดูละครนี่คือผลงานที่เราเล่น ก็ภูมิใจที่มีคนชอบเยอะค่ะ

อีกกระแสที่มีคนพูดถึงมากเลยคือ เรื่องนี้เบลล่าแต่งหน้า ใส่ชุดไทยสวยมาก

เบลล่า : ก็ต้องขอบคุณพี่เสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผมเลยค่ะที่เนรมิตลุคของเบลออกมา ก็มีทั้งพี่สไตลิสต์ ผู้กำกับ รวมถึงพี่หน่องเองก็ช่วยดูลุคให้ว่าอยากได้การะเกดประมาณนี้ อยากได้เกศสุรางค์ประมาณนี้ ก็ขอบคุณที่ทำให้เบลดูออกมาโอเคที่สุด แล้วก็ละครเรื่องนี้เป็นพีเรียดในรูปแบบใหม่ที่เบลไม่เคยเล่นมาก่อน เบลไม่ค่อยเล่นแบบร้าย หรือว่าเล่นในปีที่ย้อนยุคขนาดนี้ รวมถึงเบลไม่เคยเล่นข้ามภพ คือทุกอย่างมันคือพีเรียด แต่ตัวเรายังเป็นคนปัจจุบัน ฉะนั้นคำพูดอะไรต่างๆ กิริยาท่าทางก็จะไม่ได้เรียบร้อยเหมือนคนในยุคนั้น ก็สนุกค่ะ เป็นคนที่ไม่เหมือนคนอื่นเลย

ฝากผลงานบุพเพสันนิวาส ที่กำลังสนุกเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เบลล่า : ค่ะ ยังไงก็อยากให้ติดตามไปจนจบเลยนะคะ ตอนนี้ยังไม่ถึงครึ่งเรื่องเลย เบลไม่รู้ว่ากระแสคนติดตามจะมีต่อไปเรื่อยๆ ไหม เอาจริงๆ ตอนนี้ก็เกินความคาดหมายที่มีคนชื่นชอบมากขนาดนี้ ก็อยากให้ติดตามไปจนจบเลยนะคะ นอกจากจะได้ความบันเทิง คลายเครียด ได้ยิ้มตามแล้ว ยังได้ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกด้วย